เซลลูไลท์ ผิวหย่อนคล้อย เกิดขึ้นได้แม้น้ำหนักตัวไม่มาก

เซลลูไลท์เกาะ

เซลลูไลท์ (cellulite) เป็นไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมในชั้นผิวหนังชั้นล่าง มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยมีลักษณะเป็นรอยบุ๋มหรือรอยนูนบนผิวหนัง เซลลูไลท์มักพบที่ต้นขา สะโพก และหน้าท้อง

ไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) เป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ไขมันใต้ผิวหนังมีหน้าที่สำคัญหลายประการ เช่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ปกป้องอวัยวะภายใน และเป็นแหล่งพลังงาน ไขมันใต้ผิวหนังมักพบที่บริเวณสะโพก ต้นขา และหน้าท้อง

ไขมันใต้ผิวหนังแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ไขมันสีขาวและไขมันสีน้ำตาล

  • ไขมันสีขาวเป็นไขมันชนิดที่พบมากที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่เก็บพลังงาน โดยสะสมมากขึ้นเมื่อเรากินอาหารที่มีแคลอรีสูงและออกกำลังกายน้อย
  • ไขมันสีน้ำตาลเป็นไขมันชนิดที่พบได้น้อยกว่าไขมันสีขาว ทำหน้าที่เผาผลาญแคลอรีเพื่อผลิตความร้อน ไขมันสีน้ำตาลจะสะสมมากขึ้นเมื่อเราออกกำลังกาย

เซลลูไลท์ และไขมันใต้ผิวหนัง ต่างกันอย่างไร

เซลลูไลท์ (cellulite) และไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในโครงสร้าง เซลลูไลท์มีไขมันและเส้นใยคอลลาเจนที่กระจายตัวกันไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูเป็นคลื่นหรือเป็นหลุม ไขมันใต้ผิวหนังมีไขมันและเส้นใยคอลลาเจนที่กระจายตัวกันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผิวเรียบเนียน

น้ำหนักตัวน้อยทำไมยังมีเซลลูไลท์ (cellulite)

แม้ว่าคุณจะน้ำหนักน้อย แต่คุณก็อาจยังมีเซลลูไลท์ได้ สาเหตุหลักคือฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งพบมากในผู้หญิง โดยฮอร์โมนเพศหญิงจะกระตุ้นการสะสมไขมันในชั้นใต้ผิวหนังและทำให้เส้นเลือดฝอยแตก ส่งผลให้เซลลูไลท์เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามเซลลูไลท์ (cellulite) ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

1. ฮอร์โมนเพศหญิง

ฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (estrogen) ทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธฺุ์และโปรเจสเตอโรน (progesterone) ทำหน้าที่ควบคุมภาวะไข่ตกและการมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้งสองชนิดมีบทบาทสำคัญในการก่อตัวของเซลลูไลท์

2. พันธุกรรม

เซลลูไลท์สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากแม่ของคุณมีเซลลูไลท์ คุณก็มีโอกาสที่จะเกิดมามีเซลลูไลท์ได้เช่นกัน สาเหตุที่เซลลูไลท์สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมอาจเกี่ยวข้องกับโครงสร้างของผิวหนังและตำแหน่งของเส้นใยคอลลาเจน (collagen)และอีลาสติน (elastin)

3. น้ำหนักตัว

เซลลูไลท์มักพบในคนที่น้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้ สาเหตุหลักคือเมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินถูกยืดออกและฉีกขาด ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เซลลูไลท์มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

4. อายุ

เซลลูไลท์มักพบในผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่นและหนาขึ้น ส่งผลให้ไขมันใต้ผิวหนังนูนออกมาและมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้นก็มีส่วนทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้เช่นกัน ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวหนัง เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ลดลง ผิวหนังจึงสูญเสียความยืดหยุ่นและหนาขึ้น ส่งผลให้เซลลูไลท์มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

5. พฤติกรรม

ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลลูไลท์ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และภาวะขาดน้ำ

วิธีลดเซลลูไลท์ (cellulite)

เซลลูไลท์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มีวิธีลดเลือนรอยบุ๋มหรือรอยนูนได้ เช่น

  • การออกกำลังกาย: 

การออกกำลังกายจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

  • ควบคุมน้ำหนัก: 

การควบคุมน้ำหนักจะช่วยลดปริมาณไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดการมองเห็นของเซลลูไลท์

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: 

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด จะช่วยควบคุมน้ำหนักและลดการอักเสบ

  • การใช้ครีมหรือเจล: 

ครีมหรือเจลบางชนิดอาจช่วยลดเซลลูไลท์ได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพ

  • การทำทรีตเมนต์: 

การทำทรีตเมนต์บางอย่าง เช่น การนวด การกดจุด หรือการฉีดสารเข้าใต้ผิวหนัง อาจช่วยลดเซลลูไลท์ได้ แต่ทรีตเมนต์เหล่านี้อาจมีราคาแพงและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

  • Morpheus8 

Morpheus8 เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้พลังงานวิทยุความถี่สูง (RF) เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของผิว อุปกรณ์นี้ใช้หัวฉีดขนาดเล็กเพื่อส่งพลังงาน RF ไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวดูกระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

Morpheus8 ใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย

Morpheus8 เป็นการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้วจะไม่เจ็บปวดและไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที และผลลัพธ์จะปรากฏให้เห็นหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี

  • ริ้วรอย
  • รอยเหี่ยวย่น
  • รอยย่น
  • รอยแผลเป็นจากสิว
  • เซลลูไลท์
  • ผิวหย่อนคล้อย

The Venisia Clinic Morpheus8 กระตุ้นการเรียงตัวของคอลลาเจนในชั้นผิวและชั้นไขมันใต้ผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัยด้วยมาตรฐาน US FDA approved in “Deepest fractional RF technology

Similar Posts