ขอบตาคล้ำปัญหาทำร้ายใจ ความกลุ้มใจของโรคภูมิแพ้

ขอบตาคล้ำ

โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (Allergens)อย่างรุนแรง สารก่อภูมิแพ้พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น แมลงสาบ แมงมุม อาหารบางชนิด ยาบางชนิด สัตว์เลี้ยงบางชนิด เป็นต้น

เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะสร้างสารภูมิต้านทานชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Immunoglobulin E (IgE) เป็นแอนติบอดีที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีหน้าที่ในการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมหรือสารก่อภูมิแพ้ (allergen) เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งกระตุ้น ระบบภูมิคุ้มกันจะสร้าง IgE ขึ้น และจะจับกับเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า mast cell เมื่อ mast cell ถูกกระตุ้นด้วยสารก่อภูมิแพ้ จะปล่อยสารต่างๆ ออกมา เช่น ฮีสตามีน สารคัดหลั่ง และสารเคมีอื่นๆ สารเหล่านี้ทำให้เกิดอาการต่างๆ ของโรคภูมิแพ้โดยสารภูมิต้านทาน IgE ซึ่งจะทำให้เกิดอาการต่างๆ ของ  เช่น

  • น้ำมูกไหล
  • คัดจมูก
  • จาม
  • คันตา
  • คันจมูก
  • คันปาก
  • คันคอ
  • ไอ
  • หายใจลำบาก
  • ผื่นลมพิษ
  • บวม

โรคภูมิแพ้สามารถบรรเทาอาการได้หลายวิธี เช่น

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
  • รับประทานยาแก้แพ้
  • ใช้ยาพ่นจมูก
  • ฉีดยาภูมิคุ้มกันบำบัด

6 สาเหตุ ใต้ตาคล้ำจากอาการภูมิแพ้

พักผ่อนไม่พอ

1. พักผ่อนไม่เพียงพอ

โดยปกติแล้วชั่วโมงการพักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มอิ่มของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงวัย และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 6-8 ชั่วโมง นับเป็นช่วงเวลาการพักผ่อนของร่างกายอย่างเหมาะสม

โรคภูมิแพ้

2. อาการภูมิแพ้

ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาขยายตัว จึงทำให้เห็นรอยคล้ำได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ โรคภูมิแพ้ยังทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาบวม ช้ำ และอักเสบได้อีกด้วย ส่งผลให้ขอบตาคล้ำมากขึ้น

3. จากกรรมพันธุ์

ในผู้ที่ครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคภูมิแพ้ มักพบว่า คนในครอบครัวมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน

ภาวะขาดน้ำ

4. ภาวะร่างกายขาดน้ำ

ดื่มน้ำน้อย ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้ความสดใสของผิวพรรณและดวงตาลดลง แน่นอนว่า บริเวณขอบตา ใต้ตา มีความบอบบางหากร่ากายขาดน้ำ บริเวณนี้จะได้รับผลกระทบส่งผลให้เกิดความคล้ำ แห้ง อาจระคายเคืองได้บางรายได้เช่นกัน

5. วัยทอง

เมื่ออายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปของร่างกายจะส่งผลให้บริเวณรอบดวงตามีสีคล้ำขึ้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากฮอร์โมนหญิงลดลงทำให้การผลิตคอลลาเจน (collagen) และอีลาสติน (elastin) ลดลง จึงทำให้มองเห็นเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังและมีความหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา

6. การสูบบุหรี่ / ดื่มแอลกอฮอล์

ในบุหรี่มีส่วนผสมต่างๆ ที่ส่งผลกับผิวพรรณและร่างกายโดยตรง ทั้ง นิโคติน (nicotine) และ คาร์บอนมอนอกไซค์ (carbon dioxide) ฯลฯ  อันส่งผลให้หลอดเลือดหดตัว ขวางการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ส่วนการดื่มสุราหรือแอลกฮอล์ จะเข้าไปกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวจึงทำให้มีโอกาสให้บริเวณรอบดวงตาเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน

ทำอย่างไรเมื่อขอบตาคล้ำ

  • ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา
  • ทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินซี คาเฟอีน และไฮยาลูโรนิค แอซิด

ไหมน้ำ (Ultra Filler) เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษารอยคล้ำใต้ตาได้ เติมเต็มผิวให้อิ่มฟูแบบเร่งด่วนด้วยการฉีดผงแป้งไหมสู่ชั้นใต้ผิว ส่งผลให้บริเวณใต้ตาเต็มอิ่มขึ้น ไม่เป็นร่อง และยังช่วยให้รอยคล้ำดูจางลง ด้วยนวัตกรรมของไหมขนาดนาโนที่สามารถแทรกซึมชั้นผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้เข้าฟื้นฟูและซ่อมแซม พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไพโบพลาส อิลาติน ให้ผิวกลับมาเปร่งปรั่งในบริเวณที่ฉีดอย่างเป็นธรรมชาติ

ไหมน้ำ (Ultra Filler) เป็นการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การรักษาสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี

วิธีป้องกันขอบตาคล้ำด้วยตัวเอง

  • นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาบ่อยๆ
  • ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
  • สวมแว่นกันแดดเมื่อออกแดดจัด
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ ผัก ปลา ถั่ว ธัญพืช
  • ทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินซี คาเฟอีน และไฮยาลูโรนิค แอซิด
  • ปรึกษาคลินิกความงามเพื่อดูแลด้วยการฉีดไหมน้ำ Ultra Filler

The Venisia Clinic บอกลาปัญหาใต้ตาดำคล้ำ เติมเต็มฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังให้เต่งตึง รอบดวงตาสดใสเปร่งประกาย ด้วยนวัตกรรม ไหมน้ำ (Ultra Filler) เห็นความเปลี่ยนแปลงได้หลังจากเข้ารับการดูแล

Similar Posts