จบปัญหาท้องแขนย้วย สลายก้อนไขมันใต้รักแร้

ปัญหาแขนใหญ่ แขนย้วย หมดความมั่นใจในการใส่เสื้อที่ต้องเผยเรียวแขน ต้นแขนใหญ่เกิดได้แม้น้ำหนักตัวไม่มาก ทำให้สาวๆ หลายคนสงสัยและต้องการหาวิธีลดต้นแขนเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น หลายคนเลือกออกกำลังกายเฉพาะส่วนแต่รู้หรือไม่ว่าหากออกไม่ถูกวิธีกลับยิ่งทำให้ต้นแขนใหญ่ขึ้นมาได้และอาจใหญ่กว่าเดิม 

สาเหตุแขนใหญ่ ต้นแขนใหญ่ 

  • ไขมันสะสม : ไขมันสะสมเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารแปรรูปมากเกินไป จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไขมันได้หมด ทำให้ไขมันสะสมอยู่ตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน สะโพก และบริเวณรอบเอว

เมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ร่างกายจะเปลี่ยนพลังงานส่วนเกินเหล่านั้นให้เป็นไขมันสะสมไว้ที่ใต้ผิวหนัง ไขมันสะสมบริเวณต้นแขนมักเป็นไขมันดื้อ ซึ่งยากต่อการเผาผลาญ

นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เช่น การนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ และความเครียด อาจมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมไขมันบริเวณต้นแขน

  • กินอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป ทำให้โซเดียวเหล่านั้นกลายเป็นไขมันส่วนเกินไปเกาะสะสมในบริวณต่างๆ ได้
  • กล้ามเนื้อ : ต้นแขนใหญ่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อที่แข็งแรง 

ต้นแขนใหญ่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ซึ่งมักพบในคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาฟุตบอล นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน เป็นต้น

การออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นแขน เช่น การยกดัมเบล การวิดพื้น การโหนบาร์ เป็นต้น จะช่วยเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อต้นแขน ทำให้ต้นแขนดูใหญ่ขึ้น

  • พันธุกรรม : พันธุกรรมอาจส่งผลต่อโครงสร้างของกระดูกและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ต้นแขนใหญ่หรือเล็กกว่าปกติ
  • ฮอร์โมน : ฮอร์โมนเพศหญิงอาจทำให้ต้นแขนใหญ่ขึ้นได้
  • อายุ : ปริมาณกล้ามเนื้อในร่างกายจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้นแขนดูใหญ่ขึ้น

วิธีลดต้นแขน

ทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • คุมอาหาร : รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารแปรรูป รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : ออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นแขน เช่น การยกดัมเบล การวิดพื้น การโหนบาร์ เป็นต้น ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย
  • เข้าคลินิกความงาม : หากต้นแขนใหญ่มากจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อาจพิจารณาทำศัลยกรรมเพื่อดูดไขมัน กำจัดไขมัน เช่น  body-jet evo, sculpsure หรือผ่าตัดลดขนาดต้นแขน

นมน้อย (Accessory breast)

นมน้อย (Accessory breast) เกิดจากการที่ต่อมน้ำนมเจริญเติบโตผิดปกติ แทนที่จะพัฒนาเป็นเต้านมสองข้างตามปกติ กลับมีต่อมน้ำนมเกิดขึ้นที่อื่นในร่างกาย เช่น รักแร้ หน้าท้อง ขา เป็นต้น  นมที่สาม หรือ นมส่วนเกิน (axillary breast) เกิดได้จากเนื้อเยื่อเต้านมที่ไม่ฝ่อตัวลงอย่างสมบูรณ์ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ โดยทั่วไปแล้ว ทารกในครรภ์จะมีเนื้อเยื่อเต้านมอยู่ตามแนวจากขาหนีบไปจนถึงรักแร้ แต่จะฝ่อตัวลงเกือบทั้งหมดหลังคลอดเหลือเพียงเนื้อเยื่อเต้านมสองเต้าที่หน้าอกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี เนื้อเยื่อเต้านมอาจไม่ฝ่อตัวลงอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดนมส่วนเกินขึ้นได้ นมส่วนเกินอาจพบได้บริเวณรักแร้ ใต้รักแร้ บริเวณหน้าอก บริเวณขาหนีบ หรือบริเวณอื่นๆ ที่อยู่ตามแนวของเนื้อเยื่อเต้านม

นมที่สาม เกิดจากสาเหตุที่ยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ 

  • พันธุกรรม : นมที่สามอาจเกิดจากพันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร อาจกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมเจริญเติบโตผิดปกติ
  • การบาดเจ็บ : การบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอกอาจกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมเจริญเติบโตผิดปกติ  นมที่สาม มักไม่มีอาการใดๆ ยกเว้นกรณีที่ต่อมน้ำนมขนาดใหญ่หรือมีการติดเชื้อ อาจมีอาการเจ็บ บวม แดง หรือมีหนองไหล  
  • หากพบนมที่สาม ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปการรักษานมที่สาม ขึ้นอยู่กับขนาดและอาการของผู้ป่วย หากนมที่สามมีขนาดเล็กและไม่มีอาการใดๆ อาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ถ้านมที่สามมีขนาดใหญ่หรือมีการติดเชื้อ อาจต้องรักษาด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้ 
  • การดูดไขมัน : การดูดไขมันเป็นวิธีการรักษานมที่สามที่นิยมมากที่สุด แพทย์จะใช้เครื่องมือดูดไขมันขนาดเล็กดูดเอาเนื้อเยื่อและไขมันที่ผิดปกติออกไป
  • การผ่าตัด : การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษานมที่สามในกรณีที่การดูดไขมันไม่สามารถรักษาได้ แพทย์จะตัดเอาเนื้อเยื่อและไขมันที่ผิดปกติออก
  • ยา : การใช้ยาอาจใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อที่นมที่สาม  การรักษานมที่สาม ควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

นมส่วนเกินมักไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ยกเว้นในกรณีที่ก้อนนมมีขนาดโตมาก อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ ในบางกรณี นมส่วนเกินอาจกลายเป็นเนื้องอกได้ แต่พบได้น้อยมาก

วิธีลดขนาดนมที่สาม จบปัญหาต้นแขนใหญ่ แขนย้วย

  • การดูดไขมัน : การดูดไขมันเป็นวิธีการรักษานมที่สามที่นิยมมากที่สุด แพทย์จะใช้เครื่องมือดูดไขมันขนาดเล็กดูดเอาเนื้อเยื่อและไขมันที่ผิดปกติออกไปโดยเฉพาะนวัตกรรม body-jet evo ดูดพลังงานน้ำ เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นและยังสามารถนำไขมันบริเวณที่ดูดได้ไปเติมในบริเวณอื่นๆ ที่ต้องการให้มีความเต่งตึงมากยิ่งขึ้น

Body Jet Evo เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันพลังงานน้ำจากเยอรมนี โดยใช้พลังงานน้ำผสมกับยาชาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง จากนั้นจะใช้หัวดูดขนาดเล็กฉีดเข้าไปเพื่อสลายไขมันและดูดออกมา ด้วยความอ่อนโยนและไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

  • เจ็บน้อยกว่าการดูดไขมันแบบเดิม ๆ เนื่องจากไม่ใช้ความร้อนในการสลายไขมัน
  • บวมช้ำน้อยและหายเร็วกว่า
  • มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นน้อยกว่า
  • เซลล์ไขมันที่ดูดออกมายังคงสภาพดีและสามารถนำไปเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้

Body Jet Evo สามารถใช้ในการดูดไขมันได้ทุกบริเวณในร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน สะโพก หน้าอก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินและต้องการผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการดูดไขมันด้วย Body Jet Evo มีดังนี้

  1. แพทย์จะทำการปรึกษาและประเมินสภาพร่างกายของผู้เข้ารับการดูดไขมัน
  2. ผู้เข้ารับการดูดไขมันจะได้รับยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ
  3. แพทย์จะทำการฉีดพลังงานน้ำผสมยาชาเข้าไปใต้ผิวหนัง
  4. แพทย์จะใช้หัวดูดขนาดเล็กฉีดเข้าไปเพื่อสลายไขมันและดูดออกมา
  5. แพทย์จะทำการเย็บแผลขนาดเล็ก

หลังการดูดไขมัน ผู้เข้ารับการดูดไขมันจะต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยอาจมีอาการบวมช้ำ รอยแดง และปวดแผลเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

  • การผ่าตัด : การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษานมที่สามในกรณีที่การดูดไขมันไม่สามารถรักษาได้ แพทย์จะตัดเอาเนื้อเยื่อและไขมันที่ผิดปกติออก

ดูดไขมันด้วย Body Jet Evo เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเข้ารับการดูดไขมัน

Similar Posts